วิธีเช็ดตัวลดไข้ที่ถูกต้อง ทำอย่างไร?

วิธีเช็ดตัวลดไข้ที่ถูกต้อง คือ วิธีการที่ทำให้ความร้อนในร่างกายลดลง โดยใช้น้ำเป็นตัวช่วยพาความร้อนออกจากร่างกาย นอกจากนี้ การเช็ดตัว ยังช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จึงช่วยเพิ่มการระบายความร้อน และช่วยให้เด็กรู้สึกสบายตัว โดยวิธีเช็ดตัวลดไข้ ที่เรานำมาฝากนี้สามารถใช้ได้กับทุกวัย ตั้งแต่เด็กอ่อนไปจนถึงผู้สูงอายุค่ะ

วิธีเช็ดตัวลดไข้ที่ถูกต้อง

วิธีเช็ดตัวลดไข้ที่ถูกต้อง

การมีไข้แบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้

  • ไข้ระดับต่ำ: อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 37.5 – 38.4 องศาเซลเซียส
    ไข้ระดับปานกลาง: อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 38.5 – 39.4 องศาเซลเซียส
    ไข้ระดับสูง: อุณหภูมิ 39.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป

อุปกรณ์ในการเช็ดตัวที่ควรเตรียมไว้ให้พร้อม

  1. ปรอทวัดไข้ ในปัจจุบัน มี 2 แบบ คือ ปรอทวัดไข้แบบที่วัดทาง ผิวหนัง/รักแร้ และแบบดิจิตอล ที่วัดทางหูและทางหน้าผาก
  • หากเป็นปรอทแบบธรรมดา วางปรอทให้สัมผัสกับผิวหนังประมาณ 5 นาที
    หากเป็นดิจิตอล รอให้มีเสียงดังขึ้นที่แสดงว่าเครื่องได้อ่านอุณหภูมิเรียบร้อยแล้ว
  1. นาฬิกา สำหรับไว้จับเวลาว่า เริ่มเช็ดตัวเมื่อไหร่ เช็ดตัวไปนานกี่นาทีแล้ว และเอาไว้จับเวลา ที่จะวัดอุณหภูมิซ้ำหลังจากเช็ดตัว 30 นาที ในรายที่มีไข้สูงมากกว่า 38.8 องศาเซลเซียส แต่ในรายที่มีประวัติชักจากไข้สูง (ไข้ชัก) ต้องวัดอุณหภูมิซ้ำทุก 10-15 นาที
    ผ้าเช็ดตัว/ผ้าขนหนูสำหรับรองใต้ตัวเด็กเวลาที่เช็ดตัว เพื่อป้องกันที่นอนหรือบริเวณที่ทำการเช็ดตัวเปียกชื้น และเอาไว้ซับที่ผิวเด็กเมื่อเช็ดตัวเสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้ ผ้าเช็ดตัว ควรมีขนาดใหญ่กว่าตัวเด็กเล็กน้อย
    ผ้าขนหนูผืนเล็ก ที่อ่อนนุ่ม 2-3 ผืน ความหนาของผ้าให้พอเหมาะกับการใช้เช็ดตัวเด็ก
    กะละมังใส่น้ำ
    เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายบางๆ สำหรับสวมใส่หลังเช็ดตัว
    น้ำที่จะใช้เช็ดตัว เป็นน้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่น อุณหภูมิน้ำประมาณ 29.4 – 35 องศาเซลเซียส เทน้ำธรรมดาใส่กะละมัง (ขนาด 5 ลิตร) ผสมน้ำร้อนประมาณ 200 ซีซี. หรือ 1 แก้ว เพื่อน้ำจะไม่ร้อนมากเกินไป หากครั้งแรกไม่แน่ใจ สามารถใช้ปรอทวัดอุณหภูมิห้องจุ่มลงไปวัดได้ ครั้งต่อไปหากคุณแม่จำระดับความร้อนได้ก็ไม่ต้องวัดด้วยปรอทแล้ว ใช้ข้อศอกหรือหลังมือแตะทดสอบ เพื่อไม่ให้น้ำที่ใช้อุ่นเกินไป

อ่าน วิธีเช็ดตัวลดไข้ทารกที่ถูกต้อง คลิกหน้าถัดไป

ข้อควรระวังในการเช็ดตัวลดไข้ทารก

  • ไม่ควรใช้น้ำเย็น น้ำแข็งหรือแอลกอฮอล์ในการเช็ดตัว มาเช็ดตัวลดไข้ เพราะความเย็นจะทำให้หลอดเลือดหดตัว การระบายความร้อนออกทางผิวหนังจึงเป็นไปได้น้อย และจะทำให้เด็กหนาวสั่นได้ง่าย ซึ่งจะส่งผลให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น
    ไม่ควรเปิดพัดลมหรือเปิดเครื่องปรับอากาศในขณะที่เช็ดตัวลดไข้ เพราะจะทำให้เด็กมีอาการหนาวสั่นได้ง่าย ทำให้การเช็ดตัวลดไข้ไม่ได้ผลดี
    ไม่ควรใช้แป้งฝุ่นทาบริเวณใบหน้า ลำตัว แขน หรือขา เพราะแป้งฝุ่นจะไปอุดรูขุมขนทำให้การระบายความร้อนออกได้น้อย ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้แป้งฝุ่นหลังเช็ดตัวลดไข้
    ขณะเช็ดตัวลดไข้ หากเด็กมีอาการเริ่มหนาวสั่น ให้หยุดเช็ดตัวทันที แล้วห่มด้วยผ้าห่มหรือผ้าขนหนูที่แห้ง จนกระทั่งหยุดสั่น ควรวัดอุณหภูมิของเด็กทุก 10 – 15 นาที ถ้าเป็นปรอทธรรมดา วัดทางรักแร้ 5 นาที ขณะทำการเช็ดตัว ถ้าเป็นทารกและมีอุณหภูมิกายต่ำกว่า 7 องศาเซลเซียส ให้ทำการห่อตัว โดยเฉพาะส่วนศีรษะ ห่อหุ้มศีรษะ ห่อด้วยผ้าขนหนู เนื่องจากส่วนศีรษะมีพื้นที่ผิวกายคิดเป็นสัดส่วนถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย ห่อตัวจนกระทั่งเด็กอุณหภูมิปกติหรือใกล้เคียงปกติ (ประมาณ 37.0 – 37.5 องศาเซลเซียส) จึงหยุดห่อตัว
    ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่หนาเกินไป เนื่องจากจะขัดขวางการระบายความร้อนออกจากร่างกาย
วิธีเช็ดตัวลดไข้ที่ถูกต้อง

 

 

 

วิธีเช็ดตัวลดไข้ที่ถูกต้อง

วิธีเช็ดตัวลดไข้ที่ถูกต้อง

  • ถอดเสื้อผ้าเด็กออกทั้งหมด
    ปูผ้าเช็ดตัวรองที่นอนเพื่อกันเปียก
    บิดผ้าขนหนูพอหมาด เริ่มเช็ดที่หน้า ซอกคอ 3-4 ครั้ง เช็ดตามหน้าอกและลำตัว
    เช็ดปลายแขนในทิศย้อนเข้าหาลำตัว โดยเน้นที่ข้อพับ รักแร้ ทำซ้ำ 3-4 ครั้ง พักผ้าที่ข้อพับ
    เช็ดปลายขาในทิศย้อนเข้าหาลำตัว โดยเน้นที่ข้อพับ ขาหนีบ ทำซ้ำ 3-4 ครั้ง พักผ้าที่ข้อพับ
    ให้เด็กนอนตะแคงเช็ดทั่วหลัง
    ทำการชุบน้ำใหม่ เมื่อรู้สึกว่าผ้าเริ่มอุ่น
    ซับตัวให้แห้งและสวมเสื้อผ้าบางๆ วัดไข้ซ้ำในอีก 15-30 นาทีต่อมา
    ในเด็กที่เคยมีประวัติชักจากไข้สูง สามารถทำการวัดอุณหภูมิซ้ำได้ทุก 10-15 นาที และให้รับประทานยาลดไข้สลับกับเช็ดตัวทุก 4 ชั่วโมง แต่ยาลดไข้ให้ได้ไม่เกิน 5 ครั้งต่อวัน หรือให้ยาตามที่แพทย์แนะนำ

คำแนะนำในการดูแลเมื่อลูกเป็นไข้

ควรทานยาลดไข้ก่อนเช็ดตัว และสามารถเช็ดตัวซ้ำได้ ถ้ายังมีไข้อีก นอกจากนี้ คุณแม่ควรกระตุ้นให้เด็กดื่มน้ำมากๆ เพื่อระบายความร้อนออกทางปัสสาวะได้อีกทางหนึ่ง


ที่มา haamor.com